ไตรกลีเซอไรด์สูง

ไตรกลีเซอไรด์สูง: ปัญหาเงียบของพลังงานล้นเกิน แก้ได้ด้วยการฟื้นพลังเซลล์


1. สาเหตุของไตรกลีเซอไรด์สูง: ปัญหาไม่ใช่ไขมัน แต่คือระบบเผาผลาญที่เสียสมดุล

ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) คือไขมันในกระแสเลือดที่ร่างกายใช้เก็บพลังงานส่วนเกิน โดยเฉพาะจาก “น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต” ไม่ใช่จากไขมันโดยตรง ความเข้าใจผิดที่ว่า “กินมันแล้วไขมันขึ้น” จึงไม่แม่นยำ เพราะความจริงคือ “กินหวาน กินแป้ง กินถี่” ต่างหากที่เป็นตัวการใหญ่

กลไกหลักที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมไตรกลีเซอไรด์มี 3 ระบบในระดับเซลล์ ได้แก่:

  • AMPK (AMP-activated protein kinase): เมื่อทำงานดี จะกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์ แต่หากเรากินถี่ พักผ่อนไม่พอ หรือเครียดตลอดเวลา AMPK จะถูกยับยั้ง ส่งผลให้ไขมันสะสมมากขึ้น
  • SIRTUIN: โปรตีนกลุ่มซ่อมแซมเซลล์และควบคุมการเผาผลาญ หากขาด NAD+ (มักเกิดจากการกินตลอดเวลาโดยไม่มีช่วงอด) SIRTUIN จะทำงานได้น้อยลง ร่างกายจะเก็บพลังงานแทนการใช้
  • mTOR: ระบบที่กระตุ้นการเจริญเติบโต หากกระตุ้นบ่อยจากน้ำตาลและอินซูลิน จะทำให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น โดยไม่เปิดโหมดซ่อมแซม

ดังนั้น สาเหตุแท้จริงของไตรกลีเซอไรด์สูง ไม่ใช่แค่ “กินมัน” แต่คือระบบพลังงานระดับเซลล์ที่ทำงานผิดจังหวะและขาดช่วงพักอย่างเหมาะสม


2. อาการของภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง: เงียบแต่ร้ายแรง

ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูงมักไม่มีอาการเฉียบพลัน แต่เป็นภัยเงียบที่ค่อย ๆ ทำลายระบบต่าง ๆ ในร่างกายอย่างช้า ๆ ได้แก่:

  • เหนื่อยง่าย สมองล้า ง่วงหลังอาหาร
  • อ้วนโดยเฉพาะรอบเอว
  • ความดันโลหิตสูง
  • ค่าน้ำตาลผิดปกติ (pre-diabetes)
  • ค่าไขมัน HDL ต่ำ
  • ไขมันพอกตับ
  • ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น
  • สมรรถภาพทางเพศลดลงในเพศชาย

ทั้งหมดนี้คือผลสะสมจากการเผาผลาญผิดปกติระดับเซลล์ ที่เริ่มจากไตรกลีเซอไรด์ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ


3. วิธีฟื้นฟูจากต้นเหตุ: ฟื้นระบบเผาผลาญด้วยโภชนาบำบัดและไลฟ์สไตล์

ก. โภชนาบำบัดแนวคีโตเจนิก (Ketogenic Nutrition)

  • ลดอินซูลิน ลดไตรกลีเซอไรด์: ด้วยการงดอาหารกลุ่มน้ำตาล แป้ง ขนม น้ำผลไม้
  • เพิ่มไขมันดี: น้ำมันมะพร้าว, อะโวคาโด, MCT oil เพื่อกระตุ้นการใช้ไขมันเป็นพลังงาน
  • โปรตีนคุณภาพ: จากไข่ เนื้อสัตว์ปลอดสาร ไม่ต้องกลัวไขมันจากธรรมชาติ
  • งดของแปรรูป: ไส้กรอก ลูกชิ้น น้ำมันพืชอุตสาหกรรม

ข. การอดอาหารเป็นช่วง (Intermittent Fasting: IF 18/6)

  • ทานอาหารในช่วงเวลา 6 ชั่วโมง เช่น 12.00–18.00 น.
  • ช่วยเปิด AMPK กระตุ้นการดึงไขมันในเลือดไปใช้
  • กระตุ้น SIRTUIN และ Autophagy เพื่อซ่อมแซมเซลล์
  • ทำให้ไตรกลีเซอไรด์ลดลงโดยไม่ต้องใช้ยา

ค. ไลฟ์สไตล์ที่สนับสนุนการฟื้นฟู

  • ออกกำลังกายแบบ HIIT และเดินหลังอาหาร: ช่วยใช้กลูโคสและไขมัน
  • นอนให้พอและลึก: ฟื้นสมดุลฮอร์โมนเผาผลาญ
  • ลดความเครียด: ด้วยโยคะ สมาธิ หรือธรรมชาติบำบัด
  • เสริมสมุนไพรบำรุงตับและเผาผลาญ: ขมิ้น อบเชย กระเทียม
  • ดื่มน้ำสะอาดเพียงพอ: ช่วยลำเลียงกรดไขมันออกจากร่างกาย

4. สรุป: ไตรกลีเซอไรด์สูงไม่ใช่เรื่องของ “กินมัน” แต่คือการเสียสมดุลของพลังงานในเซลล์

สิ่งที่ควรโฟกัสคือ การคืนจังหวะธรรมชาติให้ระบบเผาผลาญ ด้วยการจัดช่วงกิน-อดให้เหมาะสม ไม่กินตลอดวัน ลดน้ำตาลแฝง และเปิดกลไกเผาผลาญผ่าน AMPK + SIRTUIN อย่างต่อเนื่อง

ยิ่งเรากลับมาใช้ชีวิตตามธรรมชาติมากเท่าไร ร่างกายก็ยิ่งฟื้นคืนสมดุลได้ง่ายขึ้น และไม่จำเป็นต้องพึ่งยาไปตลอดชีวิต

สุดท้ายนี้ หากเราเลือกใช้ “อาหารให้เป็นยา” เลือกกินเพื่อให้ร่างกายได้หยุดพัก ซ่อมแซม และฟื้นฟูอย่างเป็นธรรมชาติ เราจะค้นพบว่า “โรค” คือครูผู้มาเตือนว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต

และนั่นคือแก่นแท้ของแนวทาง อโรคาโภชนา — การกินอย่างมีปัญญา เพื่อไม่ให้ป่วย และคืนพลังแห่งชีวิตให้กลับมาอีกครั้ง

ใส่ความเห็น