โรคไทรอยด์

ไทรอยด์ต่ำ ไทรอยด์สูง: รักษาที่ต้นเหตุผ่านไมโทคอนเดรียและสมดุลภายในเซลล์

1. สาเหตุเชิงลึก: ความผิดปกติของไมโทคอนเดรียและการควบคุมพลังงานในระดับเซลล์

ต่อมไทรอยด์เป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบเผาผลาญของร่างกาย ฮอร์โมน T3 และ T4 ที่ผลิตจากต่อมไทรอยด์จะเร่งหรือชะลอการทำงานของเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย แต่การทำงานของไทรอยด์นั้นขึ้นอยู่กับสุขภาพของ “ไมโทคอนเดรีย” ในเซลล์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงาน ATP ที่สำคัญ เมื่อไมโทคอนเดรียทำงานผิดปกติ ระบบการสร้างพลังงานล้มเหลว ส่งผลให้ร่างกายตอบสนองด้วยภาวะไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism) หรือในบางกรณีเกิดการชดเชยเกินจนกลายเป็นไทรอยด์สูง (Hyperthyroidism)

กลไกหลักที่ควบคุมความสมดุลนี้ ได้แก่:

  • AMPK: เป็นตัวตรวจจับระดับพลังงานในเซลล์ เมื่อพลังงานต่ำ AMPK จะสั่งให้เซลล์เร่งสร้างพลังงานและลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น
  • SIRTUIN: กลุ่มโปรตีนที่ทำหน้าที่ควบคุมการซ่อมแซมเซลล์และยืดอายุไมโทคอนเดรีย เมื่อ sirtuin ทำงานดี จะช่วยให้การเผาผลาญสมดุลขึ้น
  • mTOR: เป็นตัวควบคุมการเติบโตของเซลล์ หาก mTOR ทำงานมากเกินไปจากภาวะอินซูลินสูง จะไปกดการทำงานของ AMPK และ SIRTUIN ทำให้ไมโทคอนเดรียเสื่อมเร็ว

ภาวะไทรอยด์ต่ำมักสัมพันธ์กับการทำงานต่ำของ AMPK และ sirtuin และการกระตุ้น mTOR มากเกินไป ส่วนภาวะไทรอยด์สูงอาจเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันแปรปรวนและทำให้การควบคุมพลังงานรวน เช่น โรคเกรฟส์ (Graves’ disease)

2. อาการของภาวะไทรอยด์ผิดปกติ

  • ไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism)

    • เหนื่อยง่าย เฉื่อยชา
    • น้ำหนักขึ้นง่าย ผิวแห้ง ผมร่วง
    • อารมณ์ซึมเศร้า ประจำเดือนมาไม่ปกติ
    • ความจำลดลง มือเท้าเย็น
  • ไทรอยด์สูง (Hyperthyroidism)

    • ใจสั่น เหงื่อออกมาก
    • น้ำหนักลดแม้กินปกติ
    • กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
    • มือสั่น กล้ามเนื้อลีบ
    • ตาโปนในบางราย (โรคเกรฟส์)

3. การรักษาที่ต้นเหตุ: ฟื้นฟูสมดุลพลังงานและระบบภูมิคุ้มกัน

แทนที่จะใช้เพียงยาฮอร์โมนทดแทนหรือยากดไทรอยด์ซึ่งแก้ปลายเหตุ การดูแลที่ “ต้นเหตุ” ต้องเน้นไปที่การฟื้นฟูสุขภาพของไมโทคอนเดรีย กระตุ้น AMPK เสริม sirtuin และลดการกระตุ้น mTOR ผ่านแนวทางดังนี้:

  • โภชนาบำบัดแนวคีโตเจนิก (Ketogenic Diet)
    ลดคาร์โบไฮเดรต เพิ่มไขมันดี (MCT, น้ำมันมะพร้าว, โอเมก้า 3) ช่วยกระตุ้น AMPK และลดภาระของอินซูลินที่ไปกระตุ้น mTOR การเข้าสู่ภาวะคีโตสิสยังช่วยเพิ่ม NAD+ ซึ่งส่งเสริมการทำงานของ sirtuin อย่างชัดเจน

  • การทำ IF แบบ 18/6
    การอดอาหารอย่างมีวินัยจะกระตุ้น AMPK และ sirtuin พร้อมลดภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีน้ำหนักเกิน

  • ลดสารกระตุ้น mTOR เช่น น้ำตาล นมวัว และโปรตีนสัตว์เกินขนาด
    การลดปริมาณอาหารที่กระตุ้น mTOR โดยเฉพาะน้ำตาลและอาหารแปรรูป จะทำให้ระบบเผาผลาญกลับสู่สมดุล และสนับสนุนการทำงานของไมโทคอนเดรียได้มากขึ้น

  • พักผ่อนอย่างเพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียดเรื้อรัง
    ความเครียดไปยับยั้งการทำงานของ sirtuin และ AMPK ผ่านฮอร์โมนคอร์ติซอล การฝึกสมาธิ นอนให้ครบวงจรการนอน (deep sleep + REM) จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีขึ้น

  • เสริมสมุนไพรธรรมชาติที่สนับสนุนไมโทคอนเดรีย
    เช่น แอชวากันดา (สำหรับไทรอยด์ต่ำ), โรดิโอลา, สารสกัดจากชาเขียว, เควอซิทิน และเรสเวอราทรอล

4. “อโรคาโภชนา” วิถีแห่งการไม่เป็นโรค คือการเลือกกินที่มีเป้าหมาย

สุดท้ายแล้ว การฟื้นฟูภาวะไทรอยด์ต่ำหรือสูงไม่ใช่เพียงการทานยา แต่คือการกลับคืนสู่จังหวะธรรมชาติของร่างกายผ่านโภชนาการที่สนับสนุนไมโทคอนเดรีย ลดภาระของอินซูลิน และฟื้นฟูระบบเผาผลาญอย่างลึกซึ้ง แนวทางเช่นคีโตเจนิก ไฟติ้งแบบ IF 18/6 และสมุนไพรธรรมชาติ เป็นเครื่องมือที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง หากเรากินอยู่เป็น ฟังสัญญาณร่างกายเป็น เราจะกลับคืนสู่สมดุลได้อย่างยั่งยืน และนี่คือหัวใจของคำว่า 

อโรคาโภชนา — การกินเพื่อไม่เป็นโรคอย่างแท้จริง

ใส่ความเห็น