ความดัน

ความดันต่ำ ความดันสูง: ปรับสมดุลจากต้นเหตุ ด้วยการฟื้นพลังงานระดับเซลล์


1. สาเหตุ: ความผิดปกติของพลังงานเซลล์ จุดเริ่มของความดันทั้งสูงและต่ำ

ไม่ว่าความดันจะ “สูงเกินไป” หรือ “ต่ำเกินไป” ล้วนสะท้อนถึง ความไม่สมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติ และพลังงานระดับเซลล์ (Cellular Energy Dysfunction) ที่สำคัญที่สุดคือ ไมโตรคอนเดรีย — โรงงานผลิตพลังงานของเซลล์ ซึ่งหากทำงานผิดปกติ จะกระทบต่อการควบคุมการหด-ขยายของหลอดเลือดโดยตรง

กลไกระดับลึกที่เกี่ยวข้องได้แก่:

  • AMPK (AMP-activated protein kinase): หากไม่ถูกกระตุ้นเพียงพอจากการอดอาหารหรือเคลื่อนไหว เซลล์จะไม่เผาผลาญไขมัน ทำให้พลังงานไม่พอ หัวใจสูบฉีดไม่ดี ความดันต่ำ หรือไม่สามารถควบคุมแรงต้านได้ จึงเกิดความดันสูง
  • SIRTUIN: โปรตีนควบคุมอายุเซลล์และจัดการกับความเครียดจากออกซิเดชัน เมื่อร่างกายขาดโหมดซ่อมแซมหลอดเลือด จะนำไปสู่ภาวะเสื่อมทั้งฝั่งความดันสูงและต่ำ
  • mTOR: หากถูกรบกวนตลอดเวลาด้วยการกินถี่ ร่างกายจะอยู่ในโหมดสร้าง (growth) ตลอดเวลาโดยไม่เข้าสู่โหมดซ่อม (repair) ส่งผลให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งส่งผลต่อความดัน

กล่าวได้ว่า “ความดันผิดปกติ คือสัญญาณจากร่างกายว่า พลังงานในเซลล์ไม่สมดุล” และเราจำเป็นต้องปรับพื้นฐานของการใช้พลังงานให้คืนสู่ธรรมชาติ


2. อาการ: สัญญาณเตือนจากร่างกาย ไม่ควรมองข้าม

ความดันสูง:

  • ปวดหัว ตึงท้ายทอย มึนหัวตอนตื่นนอน
  • ใจสั่น นอนไม่หลับ เหนื่อยง่าย
  • หงุดหงิดง่าย หัวใจเต้นแรง
  • เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบ หัวใจโต ไตเสื่อม

ความดันต่ำ:

  • เวียนศีรษะหน้ามืดเมื่อเปลี่ยนท่า
  • เหนื่อยล้า อ่อนแรง ความจำลดลง
  • หัวใจเต้นช้า มือเท้าเย็น
  • เป็นลมง่าย โดยเฉพาะในที่ร้อนหรือยืนนาน

ไม่ว่าความดันจะสูงหรือต่ำ ต่างเป็นสัญญาณว่า “ระบบควบคุมความดันของร่างกายขาดสมดุล” ซึ่งย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นคือ พลังงานเซลล์ผิดจังหวะ


3. แนวทางการฟื้นฟูจากต้นเหตุ: ปรับสมดุลพลังงานด้วยโภชนาบำบัดและไลฟ์สไตล์

ก. โภชนาบำบัดแนวคีโตเจนิก (Ketogenic Diet):

  • ลดคาร์บ น้ำตาล: ลดภาระอินซูลิน และเปิดระบบเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงานสะอาด
  • เสริมไขมันดี: เช่น MCT oil, น้ำมันมะกอก ช่วยให้ไมโตรคอนเดรียผลิตพลังงานมีประสิทธิภาพ
  • โปรตีนพอดีจากธรรมชาติ: ไม่มากเกินไปจนกระตุ้น mTOR ตลอดเวลา
  • เสริมเกลือแร่: แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, โซเดียม โดยเฉพาะในภาวะความดันต่ำเพื่อประคองระดับน้ำในเลือด

ข. การอดอาหารเป็นช่วง (Intermittent Fasting 18/6):

  • กระตุ้น AMPK ให้เปิดระบบเผาผลาญไขมัน
  • เพิ่ม SIRTUIN ฟื้นฟูเซลล์และหลอดเลือด
  • ลดการอักเสบ ลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
  • ร่างกายได้พักจากการย่อยอาหาร และเข้าสู่โหมดซ่อมแซม

ค. ไลฟ์สไตล์สมดุลพลังงาน:

  • เดินสม่ำเสมอ: ช่วยให้ระบบประสาทอัตโนมัติสมดุล
  • พักผ่อนอย่างลึก: ลดฮอร์โมนเครียดที่รบกวนหลอดเลือด
  • ไม่กินถี่เกินไป: ให้ร่างกายมีช่วงพักฟื้นจากการย่อย
  • ฝึกหายใจลึกๆ – สมาธิ – น้ำเย็น: ช่วยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก
  • เสริมสมุนไพรบำรุงพลังงาน/หลอดเลือด: เช่น บีทรูท, ขิง

4. สรุป: ความดันสูงหรือต่ำ ล้วนมีจุดร่วมที่ต้นเหตุเดียวกัน

ทั้งความดันโลหิตสูงและต่ำไม่ได้เป็นโรคที่เกิดขึ้นแยกกัน แต่มีจุดร่วมที่สำคัญคือ “ระบบพลังงานเซลล์บกพร่อง” หากเรารักษาเพียงที่ปลายเหตุ เช่น กินยากดหรือเพิ่มความดัน โดยไม่ปรับพฤติกรรมและพลังงานภายใน ระบบจะเสื่อมลงอย่างต่อเนื่อง

ในทางกลับกัน ถ้าเราปรับอาหารให้ร่างกายเข้าสู่โหมดซ่อมแซมได้บ่อยขึ้น ลดการกินถี่ เปิดให้ AMPK และ SIRTUIN ทำงาน ร่างกายจะเข้าสู่สมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ

นี่คือแนวคิดของ  อโรคาโภชนา – การกินอยู่แบบไม่ก่อโรค ฟังเสียงภายในของร่างกาย และคืนพลังให้เซลล์ได้ฟื้นฟูตัวเอง เราจะไม่ต้องเป็นทาสยา หรือกลัวตัวเลขอีกต่อไป

ใส่ความเห็น